มะม่วงน้ำดอกไม้

มะม่วงน้ำดอกไม้ จากเกษตรกรบ้านกลางไม่มีพ่อค้ารับซื้อผลผลิต

กลุ่มเกษตรกรที่ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองในบ้านหนองปรือ ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงเนื่องจากไม่มีพ่อค้าที่จะรับซื้อผลผลิตมะม่วง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มะม่วงกำลังใกล้ถึงช่วงเก็บเกี่ยว ทำให้มีมะม่วงสะสมอยู่ที่บ้านโดยไม่มีใครมาซื้อโดยเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้ที่คัดเกรดแล้วสามารถขายได้เพียง 10 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น แต่ไม่มีการซื้อรับทั้งหมด ทำให้ยังคงมีมะม่วงจำนวนมากที่รอให้พ่อค้ามาซื้ออีกหลายสิบตัน สุดท้าย รองอธิบดีกรมการค้าภายในได้เข้าไปตรวจสอบสถานการณ์ในจุดที่มีปัญหาเกิดขึ้น

รองอธิบดีกรมการค้าภายในได้เข้าไปติดตามการรับซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองในจังหวัดพิษณุโลก

เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายในได้เข้าไปติดตามการรับซื้อมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองในจังหวัดพิษณุโลก ที่กลุ่มเกษตรกรที่ปลูกมะม่วงในแปลงใหญ่บ้านลำภาศ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นกลุ่มเกษตรกรที่เข้าร่วมระบบของทางราชการเพื่อรับฟังปัญหาและตรวจสอบเพื่อให้ความช่วยเหลือกับชาวสวนมะม่วง

นับจากที่ได้รับรายงานว่าราคามะม่วงลดลงมาถึงขั้นที่ทำให้ขาดทุนและไม่สามารถขายได้เนื่องจากไม่มีพ่อค้าที่จะรับซื้อ จึงทำให้มะม่วงที่เก็บเกี่ยวแล้วต้องนำมากองเอาไว้ ส่วนที่ยังไม่ได้สุกก็ยังไม่มีตลาดที่รองรับและมีปัญหาเกิดขึ้น สถานการณ์นี้ทำให้ชาวสวนรู้สึกเดือดร้อนอย่างมากในขณะนี้ หากไม่สามารถขายมะม่วงได้จะต้องปล่อยให้เน่าเสียทั้งหมด

มะม่วงน้ำดอกไม้
ภาพจาก phitsanulokhotnews.com

นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายในเปิดเผยว่ากลุ่มนี้มีพื้นที่ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง, มะม่วงมันฟ้าลั่น, มหาชนก, โชคอนันต์, อาทูอีทูประมาณ 3,000 ไร่ เกษตรกรมีการรวมกลุ่มในรูปแบบวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้เข้ามาประสานกับกลุ่มเกษตรกร มีการทำข้อตกลงความร่วมมือในการรับซื้อมะม่วงสดจำนวน 16,000 ตัน จากเกษตรกรใน 10 กลุ่ม 7 อำเภอในจังหวัดพิษณุโลกและพิจิตร

ตั้งแต่ผลผลิตเข้าสู่ระยะที่วางแผนในวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา มีการจำหน่ายมะม่วงมันไปแล้ว 9,000 ตัน ที่เหลือคือมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ในปัจจุบันถึงแม้จะเป็นช่วงปลายฤดูที่เหลืออีก 2 วัน คือวันที่ 5 พฤษภาคมผลผลิตจะสิ้นสุดฤดูกาล อย่างไรก็ตามราคายังคงดี และปัญหาราคาตกต่ำกิโลกรัมละ 1-2 บาทที่เกิดขึ้นในอำเภอวังทองยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับราคาของมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง

นายบุญส่ง สีสะท้าน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ที่ตำบลพันชาลี อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก ได้กล่าวว่ากลุ่มนี้ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 60 คน ก่อนหน้านี้พวกเขาประสบปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ไม่สามารถทำการระบายผลผลิตได้ตามปกติ แต่หลังจากไปปรึกษากับหน่วยงานทางพาณิชย์และหอการค้า ที่ช่วยให้วางแผนการผลิตและการตลาด ทำให้สามารถขายมะม่วงคุณภาพได้ราคาดี ในปีนี้ราคาขายส่งเพิ่มขึ้นอย่างมะม่วงเกรด B จากเดิมที่ราคากิโลกรัมละ 5-6 บาท

เพิ่มขึ้นเป็น 18-20 บาทและ 25 บาทต่อส่วนเกรด ส่วนเกรด C ในปีนี้ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 12 บาทต่อกิโลกรัม เกรด AB ขายได้ราคา 20 บาทต่อกิโลกรัม เกรด A 25 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนเกรด A+ 30 บาทต่อกิโลกรัม มะม่วงเกรด A จะไปส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลี และญี่ปุ่น ส่วนเกรดต่ำกว่านี้จะส่งออกไปยังเมียนมาและจีน โดยขึ้นอยู่กับคุณภาพของสินค้า ทำให้วิสาหกิจชุมชนแปลงใหญ่ในกลุ่มนี้มีรายได้หลายล้านบาท

มะม่วงน้ำดอกไม้
ภาพจาก phitsanulokhotnews.com

นางสาวสรณ์สิริ วงศ์วนารัตน์ อายุ 46 ปี เจ้าของสวนลุงชอบ ตั้งอยู่เลขที่ 121/1 ม.1 ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก กล่าวว่าตอนนี้ตนได้ติดต่อรับออเดอร์มะม่วงจำนวน 10 ต้น เพื่อช่วยเหลือในการซื้อและแจกจ่ายให้กับพนักงานบริษัท ส่วนในสวนมีมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์และพันธุ์อื่นๆ ยังไม่มีการติดต่อขอซื้อจากพ่อค้าแม่ค้าใดๆ และยังมีน้ำดอกไม้ที่ไม่สีทองคงเหลืออยู่ประมาณ 50 ตัน ในอดีตเคยมีการซื้อจากพาณิชย์จังหวัด เกษตรอำเภอ เกษตรจังหวัด และนายอำเภอวังทองเท่านั้น

ส่วนรองอธิบดีกรมการค้าภายในยังไม่ได้มาตรวจสอบที่ตำบลบ้านกลาง อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก มะม่วงน้ำดอกไม้ของตนได้ราคาเพียงกิโลกรัมละ 10 บาท โดยต้องคัดพิเศษเพราะเป็นราคาคัดพรีเมียมที่จะใช้สำหรับส่งออกไปขายในต่างประเทศเท่านั้น ถึงจะได้ราคากิโลกรัมละ 18 บาท ส่วนสินค้าของตนที่มีคุณภาพอยู่ในเกรดซี เนื่องจากเป็นมะม่วงที่มีผลผลิตมาก ทำให้เกิดปัญหาสินค้าที่เกินตลาด ส่วนมะม่วงพันธุ์โชคอนันต์และพันธุ์อื่นๆ ไม่มีผู้ซื้อ ปัญหาหลักอยู่ที่น้ำดอกไม้ที่ไม่สีทองและน้ำดอกไม้เบอร์ 4 ที่ยังคงอยู่ในสวน

สามารถติดตามข่าวสารในจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดใกล้เคียงจากเราได้ทุกวันที่ pitloknews.com

Facebook
Twitter
Email
Scroll to Top